ตอนที่ 1 เล็งเจ้าของร้าน
3 เดือนผ่านไป
ราศีเมษ คาเฟ่
ยังตั้งร้านไม่ทันเสร็จดีลูกค้าคนแรกของร้านก็ เดินตุ่ม ๆ เข้ามา รูปร่างสูงโปร่งกับสูทผู้บริหารสีเข้ม เช่นเดียวกับเนกไทตัดด้วยความสว่างของเชิ้ตตัวในสุด สีขาว ดูยังไงก็หล่อเท่สง่ามีราศีเจ้าของบริษัทจำหน่าย และส่งออกเครื่องดื่ม
“ลืมถอดต่างหูค่ะเฮีย”
แต่ในความเนี้ยบยังมีจุดบกพร่องให้คนใส่ใจได้เห็น เมษาไม่พูดเปล่ายังยกมือน้อย ๆ ของเธอบรรจง ถอดเครื่องประดับที่บ่งบอกความเป็นตัวตนจริง ๆ ของเขาออกส่วนคนที่รู้หน้าที่โน้มตัวลงให้เธอจัดการ ตัวเองได้ถนัดไม่มีบ่นสักคำ
ตอนที่ไม่ต้องถือหัวโขนผู้บริหารสูงสุดของบริษัท เครื่องดื่มอันดับหนึ่งในประเทศเขาผู้นี้ก็เป็นชายเถื่อน ที่ร่ำรวยหรือที่ผู้คนเรียกกันว่ามาเฟียนั่นแหละ เพียง แค่มีไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ เธอคนนี้ก็ด้วย
“อ่ะ เอ๊ะ ! สูบ ?”
“ก็แค่ตอนเครียด โอเค ๆ จะยึดก็ยึดไป”
“ไม่ยึดหรอก มึงรวยเดี๋ยวก็ซื้อใหม่”
เมษายัดบุหรี่ราคาแพงลงกระเป๋าด้านในเช่น เดิม ก่อนจะจัดชุดให้คุณชายแล้วหมุนตัวเข้า เคาน์เตอร์รอรับออเดอร์จากลูกค้าประจำด้วยสีหน้าที่ ไม่พอใจนักจนเขาต้องหยิบบุหรี่ทิ้งลงถังขยะเองเธอ ถึงยิ้มออก
“เหมือนเดิม ?”
“ครับผม”
เขาผงกหัวให้เพื่อนสาวก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงเก้าอี้สูงหน้าเคาน์เตอร์รอรับเครื่องดื่ม ในตอนเช้าก่อนเข้า บริษัทเขาต้องแวะร้านเบเกอรี่แห่งนี้ก่อนเสมอ และ เที่ยงก็จะลงมาหรือบางครั้งเธอก็ขึ้นไปส่งหากวันไหน ที่ลูกค้าไม่เยอะ
จะว่าไปนี่ก็เข้าสองเดือนแล้วที่ร้านนี้เปิดขายมา ความจริงก็คือเพื่อนรักผู้นี้เสนอให้เธอลาออกจากงาน ประจำที่ทำอยู่มาเปิดร้านทำตามความฝันที่เธอเคย อยากทำ แถมยังลงทุนให้เสร็จสรรพไม่คิดดอกเบี้ย อยากคืนก็คืนไม่อยากคืนก็ไม่เป็นไร แต่เมษาเองก็ยัง อุตส่าห์ทำบัญชีไว้ครบครันจนคนที่ไม่ได้คิดอะไรเริ่ม คิดมากกลัวเธอจะเครียดที่ต้องเป็นหนี้จำนวนไม่น้อย
คุณานนต์นั่งค้ำคางมองเพื่อนของตนชงกาแฟ อย่างใจเย็น เจ้าหล่อนที่บรรจงใส่เมล็ดกาแฟลงใน เครื่อง ยังเห็นใช้แทมป์กดละเมียดละไมผงกาแฟเรียก ได้ว่าตั้งใจทุกกระบวนการขั้นตอนจนคนที่เป็นลูกค้า เองรู้สึกได้ว่าเธอใส่ใจลงไปจริง ๆ
“ได้แล้วค่ะเฮีย”
“ขอบคุณครับอีหนู”
ซาร์นยกอเมริกาโน่เย็นเพิ่มช็อตขึ้นจิบแล้วพยักหน้าเอ่ยชมคนชง รสมือนี้ที่เขาติดใจต้องดื่มทุกวัน
ติดใจกาแฟนั่นแหละ ส่วนคนชง.. คงต้องลอง ก่อน
“มาร้านกูทุกวัน เล็งเด็กในร้านกูไหมเนี่ย”
“ฮึ !” กูเล็งเจ้าของร้านต่างหาก
เสียงในหัวดังกระหึมทว่ามีเพียงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เท่านั้นที่ทิ้งไว้เป็นปริศนาให้คนถามสงสัย ท่าทางคลุม เครือแปลก ๆ ของเพื่อนทำให้เมษาคิดเป็นอย่างอื่นไม่ ได้นอกจากสิ่งที่เธอถามจะเป็นความจริง
“มันยังมายุ่งกับมึงอยู่ไหม”
“ก็เห็นตาม ๆ อยู่ แต่ไม่ได้เข้ามากวนกูหรอก”
เธอตอบความจริงด้วยสีหน้านิ่งเรียบ เพราะมัน ก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ไม่ได้มีอะไรเลย แถมเธอยังรู้อี กว่าเขาคอยส่งคนตามปกป้องเธออยู่ตลอดจะ ให้แฟนเก่าเธอมีช่องเข้ามาได้ยังไง
“มันอยากตายไม่ได้ลาญาติสินะ”
“มึงนี่ ! อย่าไปทำอะไรเขานะ”
มือน้อยฟาดลำแขนแกร่งเบา ๆ ตักเตือนเพื่อน ไม่ให้ทำผิด แต่จะฟังไหมเธอก็ไม่รู้หรอกเพราะเขาทั้ง หัวดื้อไม่ฟังใคร เรียกได้ว่าเอาแต่ใจขั้นสุดเลยนั่น แหละ
“ห่วงมัน ?”
“กูไม่อยากจองเวรกับเขาต่างหาก”
“จองเวรไหมไม่รู้ แต่ได้จองศาลาแน่ถ้ามันยังมา ยุ่งกับมึงอีก”
“จี้ ! กูพึ่งบอกไป”
และสิ่งที่เธอคิดก็ถูกจริง ๆ นอกจากเขาจะไม่ฟัง ซ้ำยังขู่ด้วยน้ำเสียงสายตาเป็นการย้ำว่าเขาเอาจริงไม่ ล้อเล่น